เช้านี้ต้องเดินทางไปยังจังหวัดเพชรบุรี โดยขับรถออกจากบ้านแล้วลืมของ วนกลับไปเอาของ และขับรถมาแวะที่ว่าการอำเภอเพื่อมาเอาของ โดยจอดที่หน้ามุกของอำเภอ และรีบวิ่งอย่างไวไปเอาของและรีบวิ่งกลับมาเพื่อเดินทางไปอบรมต่อที่เพชรบุรี
เมื่อกลับขึ้นรถ กดปุ่ม Start Engine รถมีเสียงสตาร์ทดัง แล้วก็ดับ ไฟที่หน้าปัดติดหมด ลองปิดแอร์ทั้งหมด แล้วกดสตาร์ทรถอีกครั้ง พระเจ้าช่วย..!! รถมีเสียงไปสตาร์ทวิ่งทำงานแต่รถไม่ติดอีกแล้ว พอกดอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้น ไฟหน้าจอที่หน้าปัดรถยนต์เริ่มจางลง จากการที่เราเคยเป็นช่างซ่อมรถยนต์กับป๊านายช่างใหญ่เจ้าของอู่ระบบไฟรถยนต์ ประสบการณ์ 10 กว่าปี ทำให้รู้ได้ทันที มันคืออาการของ “แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม” หรือเรียกว่าแบตเสีย นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าเราขับออกจากบ้านมา ไม่มีอาการอะไรที่จะบ่งบอกว่าแบตจะเสีย ตอนจอดรถแวะเอาของที่บ้านรถสตาร์ทติดได้ง่ายทันที ไม่มีอาการสตาร์ทอืดแต่อย่างใด
ซึ่งเป็นปกติของอาการแบตเสื่อม ซึ่งมี 2 ลักษณะ คือ
- แบตเตอรี่จะค่อยๆ เก็บไฟไม่อยู่ และสตาร์ทอืดมาหลายครั้ง แล้วจึงสตาร์ทรถไม่ติด
- แบตเตอรี่เสื่อมแบบทันที รถใช้งานปกติ พอจอดแล้วสตาร์ทไม่ติดอีกเลย
การที่แบตเตอรี่ค่อยๆเสื่อม เราจะรู้ก่อนรถจะสตาร์ทไม่ติด และเตรียมตัวรับมือแก้ไขปัญหาได้ทัน แต่อาการ แบตเตอรี่เสื่อมแบบทันที เราใช้รถปกติขับไปไหนต่อไหน แล้วไปกับกระทันหันโดยไม่ได้เตรียมตัว เราจะไปไหนต่อไม่ได้ ต้องหาคนมาช่วยจั้มแบตเตอร์รี่ หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ก็ต้องเรียกร้านมาเปลี่ยนให้ หรือบางคนถึงกับจ้างรถลาก รถสไลด์มาเอารถไปศูนย์เพื่อไปหาอาการ สุดท้ายคือการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมากขึ้น และเสียเวลาอย่างมาก
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว จริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีอาการอะไรเลย มันมีอาการแฝงตอนเราสตาร์ทรถยนต์ครั้งก่อนๆ อยู่แล้ว เราได้สังเกตหรือไม่ หากเราสังเกตดีๆ อาการสตาร์ทรถจะสตาร์ทแล้วเครื่องติดช้ากว่าปกติ เสียงจะดัง อื๊ด ๆ ชึ้ง หรือ ถ้าแบตใกล้เสีย เสียงจะลากยาวออกไป เสียงจะดัง อื๊ด ๆ ๆ ๆ ชึ่ง เสียงที่ลากยาว แสดงว่าเราต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ได้แล้ว เพราะการเก็บไฟทำได้น้อยแล้ว หากเราทำการสตาร์ทบ่อยๆ จอดดับเครื่อง 2 -3 รอบ เสียงอื๊ด จะยาวขึ้น และจะไม่ติดในที่สุด นี่คืออการแบตเตอรี่เสีย ที่หลายๆคนเจอ แต่ไม่ทันได้สังเกต แม้ผมจะมีความรู้ว่าแบตเตอรี่จะเสีบ แต่ก็มีความเสียดายค่าแบตเตอรี่ ขอใช้เพิ่มยาวอีกหน่อย เพื่อยืดอายุใช้งานต่อไปอีก (ฝืนใช้งาน) ก็จะเจอปัญหาเวลารีบๆ แบบผมนั่นเอง
ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ก็กดปุ่มปลดล็อคเกียร์ไปที่เกียร์ N แล้วออกแรงเข็ญไปที่ด้านหลังอาคารแล้วโทรหาป๊า ให้ป๊าช่วยเอาแบตที่ร้านมาเปลี่ยนให้ที จะรีบไปอบรม ใช้เวลา 30 นาที กว่าจะมาถึงแล้วติดด่านตรวจถาวร หน้าอำเภอที่มาตัเงแต่เช้ารถติดอย่างหนัก ซึ่งทำให้รู้ว่าเราควรจะมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ซักเส้น เพราะเรามีรถสำนักงานเราสามารถใช้พ่วงแบตได้ ยังรอดจากสถานการณ์นี้ไปได้ หรือหากใครเกิดอาการเดียวกันเราก็สามารถช่วยเหลือได้อีกเช่นกัน